สวัสดียามเช้าวันอาทิตย์ สุดสัปดาห์ครับพี่ๆน้องๆ ทุกๆท่าน เผลอแป๊บเดียว ก็จะถึงวันจันทร์ ซะแล้ว อะไรจะไวขนาดนั้น หากวันนี้ พี่ๆน้องๆ ท่านใด
ไม่ได้ออกไป ช๊อปปิ้ง หรือไป เดท ที่ไหน เชิญแวะเวียนเข้ามา เสวนา แลกเปลี่ยน iDea กลยุทธ์ การลงทุนในสัปดาห์หน้า ด้วยกันครับ
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย สัปดาห์หน้า
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานภาวะตลาดหุ้นไทยว่า ดัชนีปรับลดลงต่อ จากแรงขายของนักลงทุน ท่ามกลางความกังวลต่อปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจไทย โ
ดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,552.72 จุด ลดลงร้อยละ 1.12 จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงร้อยละ 14.06 จากสัปดาห์ก่อน มาที่
45,496.31 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์หลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ปิดที่ 688.05 จุด ลดลงร้อยละ 0.51 จากสัปดาห์ก่อน
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับร่วงลงในช่วงต้นสัปดาห์ ท่ามกลางแรงขายของนักลงทุนสถาบันจากความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงต่อการขยายตัวของ
เศรษฐกิจไทย ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ จากแรงซื้อหุ้นกลับของนักลงทุน รวมทั้งบันทึกการประชุมเฟดที่ส่งสัญญาณว่าเฟดยัง
ไม่เร่งรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งช่วยหนุนให้บรรยากาศการลงทุนปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงในวันศุกร์
สอดคล้องกับทิศทางดัชนีสำคัญ หลังข้อมูลเศรษฐกิจเยอรมันออกมาน่าผิดหวัง
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (13-17 ต.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีมีโอกาสเสี่ยง
ต่อการปรับลดลง ขณะที่ตลาดจะติดตามเครื่องชี้เศรษฐกิจสหรัฐ ที่จะทยอยรายงานออกมา อาทิ ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม
และเครื่องชี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ ยังต้องจับตาสถานการณ์การชุมนุมในฮ่องกง รวมทั้งสถานการณ์การความไม่สงบใน
ตะวันออกกลางด้วย.
แนวโน้มค่าเงินบาท สัปดาห์หน้า
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์แนวโน้มเงินบาทสัปดาห์หน้า (13-17 ต.ค.) อาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.55 บาทต่อดอลลาร์ โดยตลาด
อาจจับตาข้อมูลผลสำรวจภาคการผลิต ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนตุลาคม ยอดค้าปลีกเดือนกันยายน และเครื่องชี้ในภาคอสังหาริมทรัพย์
ของสหรัฐฯ เพื่อประกอบการคาดการณ์เกี่ยวกับจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ จุดสนใจเพิ่มเติมของตลาดอาจอยู่ที่การประกาศข้อมูลเศรษฐกิจเดือนกันยายนของจีน ซึ่งอาจมีผลเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของ
สินทรัพย์เสี่ยง และสกุลเงินในเอเชียในระหว่างสัปดาห์ ทั้งนี้ ตลาดการเงินสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันจันทร์ (13 ต.ค.) เนื่องในวันโคลัมบัส
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
อรุณสวัสดิ์...จิบชายามเช้า วันอาทิตย์ สะบาย สะบาย
ไม่ได้ออกไป ช๊อปปิ้ง หรือไป เดท ที่ไหน เชิญแวะเวียนเข้ามา เสวนา แลกเปลี่ยน iDea กลยุทธ์ การลงทุนในสัปดาห์หน้า ด้วยกันครับ
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย สัปดาห์หน้า
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานภาวะตลาดหุ้นไทยว่า ดัชนีปรับลดลงต่อ จากแรงขายของนักลงทุน ท่ามกลางความกังวลต่อปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจไทย โ
ดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,552.72 จุด ลดลงร้อยละ 1.12 จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงร้อยละ 14.06 จากสัปดาห์ก่อน มาที่
45,496.31 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์หลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ปิดที่ 688.05 จุด ลดลงร้อยละ 0.51 จากสัปดาห์ก่อน
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับร่วงลงในช่วงต้นสัปดาห์ ท่ามกลางแรงขายของนักลงทุนสถาบันจากความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงต่อการขยายตัวของ
เศรษฐกิจไทย ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ จากแรงซื้อหุ้นกลับของนักลงทุน รวมทั้งบันทึกการประชุมเฟดที่ส่งสัญญาณว่าเฟดยัง
ไม่เร่งรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งช่วยหนุนให้บรรยากาศการลงทุนปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงในวันศุกร์
สอดคล้องกับทิศทางดัชนีสำคัญ หลังข้อมูลเศรษฐกิจเยอรมันออกมาน่าผิดหวัง
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (13-17 ต.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีมีโอกาสเสี่ยง
ต่อการปรับลดลง ขณะที่ตลาดจะติดตามเครื่องชี้เศรษฐกิจสหรัฐ ที่จะทยอยรายงานออกมา อาทิ ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม
และเครื่องชี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ ยังต้องจับตาสถานการณ์การชุมนุมในฮ่องกง รวมทั้งสถานการณ์การความไม่สงบใน
ตะวันออกกลางด้วย.
แนวโน้มค่าเงินบาท สัปดาห์หน้า
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์แนวโน้มเงินบาทสัปดาห์หน้า (13-17 ต.ค.) อาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.55 บาทต่อดอลลาร์ โดยตลาด
อาจจับตาข้อมูลผลสำรวจภาคการผลิต ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนตุลาคม ยอดค้าปลีกเดือนกันยายน และเครื่องชี้ในภาคอสังหาริมทรัพย์
ของสหรัฐฯ เพื่อประกอบการคาดการณ์เกี่ยวกับจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ จุดสนใจเพิ่มเติมของตลาดอาจอยู่ที่การประกาศข้อมูลเศรษฐกิจเดือนกันยายนของจีน ซึ่งอาจมีผลเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของ
สินทรัพย์เสี่ยง และสกุลเงินในเอเชียในระหว่างสัปดาห์ ทั้งนี้ ตลาดการเงินสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันจันทร์ (13 ต.ค.) เนื่องในวันโคลัมบัส
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์